อ่านฟรี ๆ มนุษย์เงินเดือน ฉบับอินดี้
ตอนที่ 1 จบเสียที
http://pantip.com/topic/30387531
ตอนที่ 2 ออกหางาน (='.'=)
http://pantip.com/topic/30395519
ตอนที่ 3 ตามหาพระอาจารย์ (>'.')>
http://pantip.com/topic/30423722
สวัสดีครับ
ข้อแนะนำก่อนอ่าน ถ้ารู้สึกว่ามันยาว
print ไปอ่านในเวลาว่าง ๆ
อยู่บนรถ เข้าห้องน้ำ แฟนทิ้ง เพื่อนหายหัว
ก็ได้ครับ
print ก็ใช้เครื่องที่ทำงานนั้นแหละครับ
อ่านจบก็เอากระดาษอีกข้างมาใช้ต่อ
เพื่อโลกของเราสองคน
เกริ่นนำนิด
เนื่องด้วยที่คุณจะเห็นกระทู้แนะนำส่วนใหญ่ในห้องสีลม
จะเป็นกระทู้มีสาระ บ้างก็ของคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต
เช่น จากหนี้เป็นล้าน เดี๋ยวนี้เงินจะท่วมตัวตาย ,
จากท้อชีวิต เจอแต่มรสุม แต่ตอนนี้เหมือนนอนอาบแดด อยู่เมาดีฟ
ซึ่งเป็นการปลุกไฟ และความหวังให้กับผู้อ่านกระทู้
ส่วนของผม ผมจะมาดับไฟ และความหวังของพวกคุณเอง
ชีวิตผมตั้งแต่จบมาทำงานมา 10 ปี ไม่มีกราฟขึ้น

มีแต่เป็นเส้นตรง แล้วก็หล่นลง
แล้วก็ขึ้นกลับมาตรงจุดเดิมที่เป็นเส้นตรง
จากท้อก็พลิกชีวิต จนต้องมาพบจิตแพทย์ (มีพัฒนาการ)
ดีครับอย่างน้อยก็มีเพื่อนคุย
และผมคิดว่าการพบจิตแพทย์ไม่ใช่เรื่องหน้าอายครับ
ไม่ต้องกลัวว่าใครจะคิดว่าเราบ้า
ชีวิตผมเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีนัก
แต่ก็น่าจะเป็นข้อคิดได้บ้าง ให้กับคนทำงาน
น้อง ๆ ที่กำลังจะจบ
หรือใครก็ได้ช่วยอ่านกระทู้ผมที
ผมพยายามเขียนแบบยอมรับความจริง ไม่เอียงเขาตัวเอง (อาจจะมีนิดหน่อย)
แต่ผมจะเขียนมันทุกเกือบเรื่อง ที่ผมไม่เคยบอกใครใน pantip
เพราะถึงยังไงคนใน pantip ที่เคยเห็นหน้าผมก็มีแค่ 2 คน
ซึ่งผมก็สั่งเก็บไปหมดแล้ว
------------------------------------------------------------------------------------------
เริ่มตอนที่ 1 จบเสียที งั้นก็ลาเลยแล้วกันครับ สวัสดีครับ
แต่ด้วยมีเสียงเรียกร้องที่ผมได้ยินอยู่คนเดียวว่า
"เขียนเถอะ ดีกว่าเก็บไปคิดอยู่ในสมอง ตอนนอนไม่หลับ"
งั้นเรามาเริ่มกันเลย
ผมจบวิทย์-คอม
ที่หลงมาเรียนคณะนี้ เพราะผมดูหนังเรื่องนึง
พระเอกกดคีย์บอร์ดอย่างเร็ว เร็วจนน่าจะเป็นสถิติโลก
แล้วก็เจาะระบบข้อมูล
CIA FBI ABC CAT
ผมก็คิดว่าถ้าผมเรียนจบ ผมคงได้เป็นอาชญากร
และอีก 1 สาเหตุนึงคือ เรียนรักษาหน้าตัวเอง
น้อง ๆ ที่เอ็นฯ ไม่ติด ไม่ต้องเสียใจครับ
ผมเอ็นทรานซ์มา 3 ครั้ง ไม่ติดสักครั้ง
ก็เลยมาเรียน ม.เอกชน มีสอบพอเป็นพิธี
เลือกวิทย์คอมเพราะช่วงนั้นบูมมาก
และเวลาใครถามเรียนอะไร
"เรียน วิทคอม ครับ" อย่างเท่
ซึ่งตรงนี้ก็ฝากถึงน้อง ๆ ที่จะเลือกคณะ
อย่าเอาเท่แบบผม และศึกษาให้ดี
ที่เราจะไปเรียนเขาสอนอะไร
จบมาทำอะไร อยากจะเป็นแบบนั้นจริงไหม
เพราะบางสาขาที่ผมเคยเจอ วิท - animation ประมาณเนี่ย
เด็กก็คิดว่าทำ animation เจอมาเขียนโปรแกรมบ่นกันให้อุบ
อย่างผมกว่าจะรู้ตัวเหมาะกับวงการบันเทิงก็เข้าวัย 30 แล้ว
มหาลัยเป็นช่วงที่สนุกมากครับ
ยกเว้นตอนเรียน กับตอนสอบ
เช้าเตะบอล ถึงเวลาเรียนเข้าไปตากแอร์
เอาหนังสือมากางหน่อย อ่านการ์ตูน
ส่วนวิชาที่เรียนกันเป็นเทอม
เพื่อนผมสามารถสอนพวกผมภายใน 3 วัน
เคยมีบ้างคนสอนได้คะแนนน้อยกว่าคนถูกสอน มีงอน
และเราจะรู้ได้เลยว่าใครพร้อมไม่พร้อมดูกันหน้าห้องสอบ
พวกผมยังนั่งท่องชีทแบบเอาเป็นเอาตาย
ขอบตาเป็นหมีแพนด้าอยู่หน้าห้อง นั่งงึมงำ ๆ
เหมือนคนบ้า
และผลของหลักสูตรเร่งรัด C ก็ถือว่า ok
ในชีวิตเคยได้ F ครั้งนึง ตอนนั้นเสียใจมาก
เหมือนชีวิตมีจุดด่างพร้อย โลกของผมมันสลายไปแล้ว
ทั้งแค้นตัวเอง ทั้งเสียใจ ปลีกตัวจากเพื่อน ๆ
ไปนั่งดื่มกล้วยปั่นใส่น้ำแดงเงียบ ๆ คนเดียว
ส่วน A ก็มีบ้าง A ปรัชญา เรียนวิทคอม A ปรัชญา เจริญละ
กับวิชาที่ลงทะเบียนผิด กลุ่มห้องผมเรียนเขียนภาษานึง
ผมดันไปลงอีกภาษานึง เหมือนเป็นตัวแทนห้องไปเรียน
พึ่งใครไม่ได้
พวกรายงานงานเดี่ยว ผมมักจะทำได้ออกมาดี
แต่ถ้าเป็นงานกลุ่ม ผมจะกลายสภาพเป็นปลิง (ในทันที)
อย่างเช่น วิชาจบ ทำโครงการส่ง กลุ่มละ 3 คน
ผมได้ A แถมได้รับรางวัลประกวดโครงการ (ที่ 1 นะจ๊ะ)
มาโดยไม่ได้เขียนโปรแกรมสักตัว
คอยทำหน้าที่เป็นล่าม ตัวกลางระหว่างเพื่อนผมคนเขียนกับอาจารย์
เพื่อนผมติดตรงนี้ ผมก็จะไปหาอาจารย์ที่ปรึกษา
ว่ากลุ่มผมเขียนแบบติดอยู่ตรงนี้ อาจารย์ก็แนะนำหนังสือให้
แล้วผมก็หาหนังสือส่งให้เพื่อนต่อไป
อาจารย์ก็คงคิดละว่า ผมมันคงเป็นตัวหลัก
หารู้ว่า ผมนะมันตัวถ่วง 5555
แต่ไม่ต้องห่วงหรอกครับ กรรมเวรมีจริง
เพื่อนผมตอนนี้ก็เป็นหัวหน้าแผนก IT บริษัทนึง
เจอล่าสุดเงินเดือนประมาณ 6 หมื่น
แถมเขียนเกมใน facebook ไม่รู้ว่าเจ๊งไปยัง
ขณะที่ผม 15000 (สมน้ำหน้า)
สุดท้ายและท้ายสุด
ผมก็เรียนจบด้วย เกรด 2.44 + กับความรู้แบบหลักสูตรเร่งรัด
ใจไม่อยากขึ้นไปรับปริญญา ขี้เกียจต่อคิว (เริ่มอินดี้แล้ว)
แต่แม่อยาก เพราะเป็นลูกคนแรกที่รับปริญญา
แม่ดีใจมาก วันซ้อมไม่มีใครมาเลย ผมก็ถือกล้องไปถ่ายตัวเอง
วันจริง พ่อ แม่ มีญาติ มาช่วยถ่ายกล้องธรรมดา ๆ
พอผมจะเขารับปริญญา หนีกลับบ้านกันหมด สุดท้าย
ผมก็ต้องหิ้วตัวเองกลับบ้านเอง
เรียนจบ แม่ตบรางวัล เป็น....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ไม่มีอะไรสักอย่าง เพราะส่งผมเรียนก็หมดรถไปคันนึงแล้ว
ขอบคุณครับแม่
ตอนต่อไป เขียนต่อแน่นอน แม้จะไม่มีสัก comment
ออกหางาน
ขอบคุณครับ
ปล. ทุกวันนี้ผมยังมีฝันร้ายว่า ตัวเองต้องไปสอบอยู่เลย
(มันน่ากลัวมากจริง ๆ นะ)
ปล.2 ก็ขอบคุณคนที่แนะนำให้ผมลองเขียนอะไรดูบ้าง ก็ขอบคุณครับ
ปล.3 คุณจะเห็นว่าไม่มีชีวิตรักเลย คือ มันก็ไม่มีจริง ๆ
ถึงมีก็เผยความในใจไม่ได้ และเมื่อถึงวันนี้ที่จะเผยความในใจ
อะไรจะเกิดขึ้น เมื่อเพื่อนบอกรักเพื่อน ในตอนที่มีงานทำแล้ว
เดี๋ยวขอคิดก่อนว่าจะเขียนเรื่องนี้ดีไหม
ปล.4 ฝากถึงผู้ที่อ่านจาก tag ชีวิตวัยรุ่น กับ มหาวิทยลัย คือ
ตอนต่อไป ผมจะ tag แค่ มนุษย์เงินเดือนนะครับ ถ้าอยากอ่านต่อ (คงมีน้อย)
เชิญห้องสีลมเลยครับ คิดว่าคงอาทิตย์ละตอน
มนุษย์เงินเดือน ฉบับอินดี้ ตอนที่ 1 จบเสียที
ตอนที่ 1 จบเสียที http://pantip.com/topic/30387531
ตอนที่ 2 ออกหางาน (='.'=) http://pantip.com/topic/30395519
ตอนที่ 3 ตามหาพระอาจารย์ (>'.')> http://pantip.com/topic/30423722
สวัสดีครับ
ข้อแนะนำก่อนอ่าน ถ้ารู้สึกว่ามันยาว
print ไปอ่านในเวลาว่าง ๆ
อยู่บนรถ เข้าห้องน้ำ แฟนทิ้ง เพื่อนหายหัว
ก็ได้ครับ
print ก็ใช้เครื่องที่ทำงานนั้นแหละครับ
อ่านจบก็เอากระดาษอีกข้างมาใช้ต่อ
เพื่อโลกของเราสองคน
เกริ่นนำนิด
เนื่องด้วยที่คุณจะเห็นกระทู้แนะนำส่วนใหญ่ในห้องสีลม
จะเป็นกระทู้มีสาระ บ้างก็ของคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต
เช่น จากหนี้เป็นล้าน เดี๋ยวนี้เงินจะท่วมตัวตาย ,
จากท้อชีวิต เจอแต่มรสุม แต่ตอนนี้เหมือนนอนอาบแดด อยู่เมาดีฟ
ซึ่งเป็นการปลุกไฟ และความหวังให้กับผู้อ่านกระทู้
ส่วนของผม ผมจะมาดับไฟ และความหวังของพวกคุณเอง
ชีวิตผมตั้งแต่จบมาทำงานมา 10 ปี ไม่มีกราฟขึ้น
มีแต่เป็นเส้นตรง แล้วก็หล่นลง
แล้วก็ขึ้นกลับมาตรงจุดเดิมที่เป็นเส้นตรง
จากท้อก็พลิกชีวิต จนต้องมาพบจิตแพทย์ (มีพัฒนาการ)
ดีครับอย่างน้อยก็มีเพื่อนคุย
และผมคิดว่าการพบจิตแพทย์ไม่ใช่เรื่องหน้าอายครับ
ไม่ต้องกลัวว่าใครจะคิดว่าเราบ้า
ชีวิตผมเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีนัก
แต่ก็น่าจะเป็นข้อคิดได้บ้าง ให้กับคนทำงาน
น้อง ๆ ที่กำลังจะจบ
หรือใครก็ได้ช่วยอ่านกระทู้ผมที
ผมพยายามเขียนแบบยอมรับความจริง ไม่เอียงเขาตัวเอง (อาจจะมีนิดหน่อย)
แต่ผมจะเขียนมันทุกเกือบเรื่อง ที่ผมไม่เคยบอกใครใน pantip
เพราะถึงยังไงคนใน pantip ที่เคยเห็นหน้าผมก็มีแค่ 2 คน
ซึ่งผมก็สั่งเก็บไปหมดแล้ว
------------------------------------------------------------------------------------------
เริ่มตอนที่ 1 จบเสียที งั้นก็ลาเลยแล้วกันครับ สวัสดีครับ
แต่ด้วยมีเสียงเรียกร้องที่ผมได้ยินอยู่คนเดียวว่า
"เขียนเถอะ ดีกว่าเก็บไปคิดอยู่ในสมอง ตอนนอนไม่หลับ"
งั้นเรามาเริ่มกันเลย
ผมจบวิทย์-คอม
ที่หลงมาเรียนคณะนี้ เพราะผมดูหนังเรื่องนึง
พระเอกกดคีย์บอร์ดอย่างเร็ว เร็วจนน่าจะเป็นสถิติโลก
แล้วก็เจาะระบบข้อมูล
CIA FBI ABC CAT
ผมก็คิดว่าถ้าผมเรียนจบ ผมคงได้เป็นอาชญากร
และอีก 1 สาเหตุนึงคือ เรียนรักษาหน้าตัวเอง
น้อง ๆ ที่เอ็นฯ ไม่ติด ไม่ต้องเสียใจครับ
ผมเอ็นทรานซ์มา 3 ครั้ง ไม่ติดสักครั้ง
ก็เลยมาเรียน ม.เอกชน มีสอบพอเป็นพิธี
เลือกวิทย์คอมเพราะช่วงนั้นบูมมาก
และเวลาใครถามเรียนอะไร
"เรียน วิทคอม ครับ" อย่างเท่
ซึ่งตรงนี้ก็ฝากถึงน้อง ๆ ที่จะเลือกคณะ
อย่าเอาเท่แบบผม และศึกษาให้ดี
ที่เราจะไปเรียนเขาสอนอะไร
จบมาทำอะไร อยากจะเป็นแบบนั้นจริงไหม
เพราะบางสาขาที่ผมเคยเจอ วิท - animation ประมาณเนี่ย
เด็กก็คิดว่าทำ animation เจอมาเขียนโปรแกรมบ่นกันให้อุบ
อย่างผมกว่าจะรู้ตัวเหมาะกับวงการบันเทิงก็เข้าวัย 30 แล้ว
มหาลัยเป็นช่วงที่สนุกมากครับ
ยกเว้นตอนเรียน กับตอนสอบ
เช้าเตะบอล ถึงเวลาเรียนเข้าไปตากแอร์
เอาหนังสือมากางหน่อย อ่านการ์ตูน
ส่วนวิชาที่เรียนกันเป็นเทอม
เพื่อนผมสามารถสอนพวกผมภายใน 3 วัน
เคยมีบ้างคนสอนได้คะแนนน้อยกว่าคนถูกสอน มีงอน
และเราจะรู้ได้เลยว่าใครพร้อมไม่พร้อมดูกันหน้าห้องสอบ
พวกผมยังนั่งท่องชีทแบบเอาเป็นเอาตาย
ขอบตาเป็นหมีแพนด้าอยู่หน้าห้อง นั่งงึมงำ ๆ
เหมือนคนบ้า
และผลของหลักสูตรเร่งรัด C ก็ถือว่า ok
ในชีวิตเคยได้ F ครั้งนึง ตอนนั้นเสียใจมาก
เหมือนชีวิตมีจุดด่างพร้อย โลกของผมมันสลายไปแล้ว
ทั้งแค้นตัวเอง ทั้งเสียใจ ปลีกตัวจากเพื่อน ๆ
ไปนั่งดื่มกล้วยปั่นใส่น้ำแดงเงียบ ๆ คนเดียว
ส่วน A ก็มีบ้าง A ปรัชญา เรียนวิทคอม A ปรัชญา เจริญละ
กับวิชาที่ลงทะเบียนผิด กลุ่มห้องผมเรียนเขียนภาษานึง
ผมดันไปลงอีกภาษานึง เหมือนเป็นตัวแทนห้องไปเรียน
พึ่งใครไม่ได้
พวกรายงานงานเดี่ยว ผมมักจะทำได้ออกมาดี
แต่ถ้าเป็นงานกลุ่ม ผมจะกลายสภาพเป็นปลิง (ในทันที)
อย่างเช่น วิชาจบ ทำโครงการส่ง กลุ่มละ 3 คน
ผมได้ A แถมได้รับรางวัลประกวดโครงการ (ที่ 1 นะจ๊ะ)
มาโดยไม่ได้เขียนโปรแกรมสักตัว
คอยทำหน้าที่เป็นล่าม ตัวกลางระหว่างเพื่อนผมคนเขียนกับอาจารย์
เพื่อนผมติดตรงนี้ ผมก็จะไปหาอาจารย์ที่ปรึกษา
ว่ากลุ่มผมเขียนแบบติดอยู่ตรงนี้ อาจารย์ก็แนะนำหนังสือให้
แล้วผมก็หาหนังสือส่งให้เพื่อนต่อไป
อาจารย์ก็คงคิดละว่า ผมมันคงเป็นตัวหลัก
หารู้ว่า ผมนะมันตัวถ่วง 5555
แต่ไม่ต้องห่วงหรอกครับ กรรมเวรมีจริง
เพื่อนผมตอนนี้ก็เป็นหัวหน้าแผนก IT บริษัทนึง
เจอล่าสุดเงินเดือนประมาณ 6 หมื่น
แถมเขียนเกมใน facebook ไม่รู้ว่าเจ๊งไปยัง
ขณะที่ผม 15000 (สมน้ำหน้า)
สุดท้ายและท้ายสุด
ผมก็เรียนจบด้วย เกรด 2.44 + กับความรู้แบบหลักสูตรเร่งรัด
ใจไม่อยากขึ้นไปรับปริญญา ขี้เกียจต่อคิว (เริ่มอินดี้แล้ว)
แต่แม่อยาก เพราะเป็นลูกคนแรกที่รับปริญญา
แม่ดีใจมาก วันซ้อมไม่มีใครมาเลย ผมก็ถือกล้องไปถ่ายตัวเอง
วันจริง พ่อ แม่ มีญาติ มาช่วยถ่ายกล้องธรรมดา ๆ
พอผมจะเขารับปริญญา หนีกลับบ้านกันหมด สุดท้าย
ผมก็ต้องหิ้วตัวเองกลับบ้านเอง
เรียนจบ แม่ตบรางวัล เป็น....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอบคุณครับแม่
ตอนต่อไป เขียนต่อแน่นอน แม้จะไม่มีสัก comment
ออกหางาน
ขอบคุณครับ
ปล. ทุกวันนี้ผมยังมีฝันร้ายว่า ตัวเองต้องไปสอบอยู่เลย
(มันน่ากลัวมากจริง ๆ นะ)
ปล.2 ก็ขอบคุณคนที่แนะนำให้ผมลองเขียนอะไรดูบ้าง ก็ขอบคุณครับ
ปล.3 คุณจะเห็นว่าไม่มีชีวิตรักเลย คือ มันก็ไม่มีจริง ๆ
ถึงมีก็เผยความในใจไม่ได้ และเมื่อถึงวันนี้ที่จะเผยความในใจ
อะไรจะเกิดขึ้น เมื่อเพื่อนบอกรักเพื่อน ในตอนที่มีงานทำแล้ว
เดี๋ยวขอคิดก่อนว่าจะเขียนเรื่องนี้ดีไหม
ปล.4 ฝากถึงผู้ที่อ่านจาก tag ชีวิตวัยรุ่น กับ มหาวิทยลัย คือ
ตอนต่อไป ผมจะ tag แค่ มนุษย์เงินเดือนนะครับ ถ้าอยากอ่านต่อ (คงมีน้อย)
เชิญห้องสีลมเลยครับ คิดว่าคงอาทิตย์ละตอน